3 : How to start?

สิ่งที่ต้องทำก่อนเริ่มเตรียมสอบ IELTS Academic


1. เลือกว่าจะสอบแบบไหน

  • ตัดสินใจว่าจะสอบแบบ Paper หรือ Computer ให้รอบคอบที่สุด
  • เลือกให้เหมาะกับตัวเอง
  • ต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนเริ่มเตรียมสอบ
  • วิดีโอประกอบการตัดสินใจ >> Computer-Based IELTS vs Paper-Based IELTS
     
    สิ่งที่ควรทำเพื่อประกอบการตัดสินใจ
  1. เตรียมกระดาษ+ดินสอ และ PC / laptop ที่มีคีย์บอร์ด+เปิดโปรแกรมอะไรก็ได้ที่พิมพ์ได้ เช่น Microsoft word
  2. นึกเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่จำได้มาประมาณ 8-10 ประโยค
  3. จับเวลาและเขียนเนื้อเพลงลงบนกระดาษ
  4. จับเวลาและพิมพ์เนื้อเพลงลงใน PC / laptop
  5. เปรียบเทียบเวลา         

2. เตรียม Materials ที่ต้องใช้
  • สำหรับคนที่เลือกแบบ Paper-based exam
    • ถ่ายเอกสาร IELTS Answer Sheet มาใช้ตลอดการเตรียมสอบ
      • Answer Sheet ในแต่ละพาร์ทจะแตกต่างกัน
      • หาไฟล์ Download ได้ทั่วไป (ค้นในกูเกิลว่า "IELTS Answer Sheet" หรือลองดูใน link นี้ >> Download IELTS Answer Sheet PDF for Listening, Reading & Writing)
    • Printout ข้อสอบพาร์ท Listening และ Reading ที่หาได้ (ค้นเอาในกูเกิ้ลก็ได้ค่ะ มีหลายแหล่งให้เลือก)
    • Printout Infographic และหัวข้อของพาร์ท Writing 
    • Printout คำถามสำหรับ Speaking
  • สำหรับคนที่เลือกแบบ Computer-based exam
    • ฝึก Split จอคอมให้เป็นแบบ Multitasking
    • เปิด Google Chrome แล้วโหลด Highlighter Chrome Extension (กูเกิ้ลไปตามนี้แล้วโหลดมาเลยค่ะ อันไหนก็ได้ที่ใช้งานได้) หรือ ใช้โปรแกรมอะไรก็ได้ที่เปิดไฟล์ PDF แล้ว Highlight ข้อความได้ (เช่น Drawboard PDF)
    • Printout คำถามสำหรับ Speaking
    • เข้าไปลองทำเล่นๆดูได้นะคะ >> Get familiar with taking IELTS on computer

3. ทดลองทำข้อสอบ
  • นำ Materials ที่เตรียมไว้มาฝึกทำทั้ง 4 Parts + จับเวลาตามรูปแบบการสอบจริง
  • คำนวณคะแนน แล้วเทียบ Band Score ที่ทำได้ในแต่ละพาร์ท (หาตารางเทียบ Band Score ได้ในกูเกิ้ล / ระวังอย่าเทียบคะแนนผิดตาราง)
  • ดู Band Score ที่ได้ + ความรู้สึกของตัวเอง แล้วทำตามขั้นตอนต่อไป

4. จัดลำดับ 4 Parts ของ IELTS Academic จากยากไปง่าย
  • ขั้นตอนนี้สำคัญสำหรับการเริ่มเตรียมสอบมากๆ
  • ส่วนใหญ่แล้วจะเรียงเป็น Writing > Speaking > Reading > Listening
  • เรียงตามความถนัดและตามที่คิดว่าตัวเองโอเค
    • โดยส่วนตัวเราเรียงเป็น Writing > Reading > Listening > Speaking

5. เริ่มเรียนตามลำดับที่เรียงไว้
  • Part ที่อยู่อันดับต้นๆให้ใช้เวลามากกว่าพาร์ทอื่นๆ
  • ถ้าปกติไม่ได้ถนัด Speaking Skill ให้ฝึกควบคู่ไปกับพาร์ทอื่นๆเลยค่ะ ใช้เวลาแค่ 15 นาทีต่อวัน (อันนี้เราพลาดมาแล้ว ชะล่าใจเกินไปจริงๆ)    
  • แบ่งเวลาที่มีเป็น 6 ส่วน(อัตราส่วน 3:3:1:1:1:9) ตามตัวอย่างด้านล่าง

        ตัวอย่าง
    • ปรับเวลาได้ตามความถนัดและความจำเป็น แต่ช่วงฝึกทำข้อสอบควรมากกว่าครึ่งนึงของเวลาทั้งหมด
    • เรียงลำดับเป็น Writing > Speaking > Reading > Listening
    • มีเวลาทั้งหมด 90 วัน (วันละ 1-3 ชั่วโมง)
      • 15 วัน - เรียน Writing Task1
        • ศึกษาทุกอย่างที่ควรรู้+คำศัพท์+วิธีเขียน+Pattern+ตัวอย่างคำตอบ+อื่นๆ
      • 15 วัน - เรียน Writing Task2 
        • ศึกษาทุกอย่างที่ควรรู้+คำศัพท์+วิธีเขียน+Pattern+ตัวอย่างคำตอบ+อื่นๆ
      • 5 วัน - เรียน Speaking
        • ศึกษาทุกอย่างที่ควรรู้+คำศัพท์จำเป็น+Grammar+Idioms+อื่นๆ
      • 5 วัน - เรียน Reading
        • ศึกษาทุกอย่างที่ควรรู้+คำศัพท์+Trickต่างๆ+วิธีอ่านให้เร็ว+อื่นๆ
      • 5 วัน - เรียน Listening
        • ศึกษาทุกอย่างที่ควรรู้+Trick ต่างๆ+คำศัพท์+แนวข้อสอบ+อื่นๆ
      • 45 วัน - ฝึกทำข้อสอบทั้ง 4 Parts ทุกวัน (Writing+Reading+Listening+Speaking) 
        • จับเวลาตามจริง (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง / วัน) 

Pie Chart เวลา


ความคิดเห็น